การเลือกใช้และการบำรุงรักษา มอเตอร์เกียร์ให้เหมาะสมกับงาน

มอเตอร์เกียร์อีกหนึ่งนวัตกรรมเฉพาะทางที่แตกต่างจากมอเตอร์ทั่วไป

มอเตอร์เกียร์

มอเตอร์เกียร์คืออีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตที่จำเป็นต้องใช้งานสายพานสำหรับการลำเลียงสินค้า ด้วยคุณสมบัติของมอเตอร์เกียร์ที่จะสามารถมอบพลังงานกลในความเร็วที่เหมาะสมกับการใช้งานประเภทต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกันนี้เองเราผู้ใช้งานก็จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเลือกใช้และการบำรุงรักษามอเตอร์เกียร์ของเรานั้นมีความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นที่มาจากการใช้งานที่ผิดประเภทวัตถุประสงค์นั่นเอง

ทำความรู้จักกับมอเตอร์เกียร์

หลาย ๆ คนคงจะคุ้นชินกับชื่อที่เรียกว่า “มอเตอร์ “ กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วด้วยคุณสมบัติที่สามารถทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าให้กลายเป็นพลังงานกล ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถพบเห็นได้ตามอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราใช้งานกันในชีวิตประจำวันอย่างเช่นพัดลมนั่นเอง แต่ทว่าในขณะเดียวกันยังมีอุปกรณ์อีกหลาย ๆประเภทที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องการกำลังและความเร็วของมอเตอร์ที่เร็วจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบได้ จึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “มอเตอร์เกียร์” เข้ามามีส่วนร่วม โดยมอเตอร์เกียร์นี้จะมีคุณสมบัติพิเศษที่จะเข้ามาช่วยในการลดกำลังและลดความเร็วของมอเตอร์ให้อยู่ในความเร็วที่เหมาะสมกับประเภทงานอย่างเช่นงานประเภทสายพาน ที่ต้องอาศัยการเคลื่อนที่ในความเร็วช้า ๆ เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการลำเลียงโดยเฉพาะ
 

เลือกใช้มอเตอร์เกียร์ให้เหมาะสมกับประเภทงาน

ในบรรดามอเตอร์เกียร์ที่มีอยู่มากมายในท้องตลาดนั้น ได้ถูกแบ่งประเภทของมอเตอร์เกียร์สำหรับการใช้งานแต่ละวัตถุประสงค์โดยเฉพาะ ซึ่งโดยปกติแล้วเราควรคำนึงถึงขนาดและกำลังของมอเตอร์เกียร์ที่มีความจำเป็นต้องใช้งาน สามารถตรวจสอบได้จากแรงม้าหรือวัตต์ อัตราการทดรอบและความเร็ว และเรายังควรตรวจสอบจากประเภทของมอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย โดยมอเตอร์เกียร์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบันนี้ มีด้วยกัน 5 แบบได้แก่

  1. มอเตอร์เกียร์ชนิดทรงกระบอก ถือได้ว่าเป็นมอเตอร์เกียร์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และยังมีความเร็วที่สูง มีจุดเด่นตรงที่ไม่มีเสียงดังมากและมีการสูญเสียไม่มาก ซึ่งเหมาะในการนำมอเตอร์เกียร์ชนิดนี้มาใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้กำลังขนาดใหญ่

  2. มอเตอร์เกียร์ชนิดเสี้ยม ถูกจัดเป็นมอเตอร์เกียร์ที่มีแกนและขนาดที่ตัดกันทั้งเข้าและออก โดยจะมีไว้สำหรับการเปลี่ยนทิศทางการถ่ายโอนของระบบการทำงานของเครื่องจักรโดยเฉพาะ มีจุดเด่นตรงที่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และไม่เกิดเสียงดังดังมาก เหมาะในการนำมอเตอร์เกียร์ชนิดนี้ใช้ในงานที่ต้องการทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ 

  3. มอเตอร์เกียร์ชนิดแฉก เป็นมอเตอร์ที่มีขนาดและน้ำหนักที่ค่อนข้างน้อย แต่ในขณะเดียวกันนี้เองกลับสามารถรับน้ำหนักของวัตถุได้มากพอสมควร มีจุดเด่นที่มีความทนทานสูง เหมาะในการนำมอเตอร์เกียร์ชนิดนี้ใช้งานในงานที่ต้องการอัตราทดเฟืองเยอะ ๆ เพราะให้กำลังในการถ่ายเยอะ

  4. มอเตอร์ชนิดตัวหนอน เป็นมอเตอร์ที่มีหน้าที่แยกส่วนของกระปุกเกียร์ที่มีอัตราการทดเกียร์สูง มีจุดเด่นตรงที่มีการทำงานที่ค่อนข้างเงียบ เหมาะในการนำมอเตอร์เกียร์ชนิดนี้ใช้งานในงานที่ต้องการอัตราการทดกำลังที่มากและต้องการความเงียบ

  5. มอเตอร์เกียร์ชนิดสะพาน เป็นมอเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่หลากหลาย ด้วยลักษณะทางยาวรูปร่างคล้ายสะพาน ด้วยจุดเด่นนี้เองจึงทำให้เหมาะกับการนำมอเตอร์เกียร์ชนิดนี้ไปใช้งานกับงานได้หลายประเภท

บำรุงรักษามอเตอร์เกียร์ให้อายุการใช้งานยาวนาน

ด้วยลักษณะการใช้งานของมอเตอร์เกียร์ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะถูกใช้งานในลักษณะที่ต้องมีการทำงานของมอเตอร์เกียร์อยู่ตลอดเวลา หากขาดการบำรุงรักษามอเตอร์เกียร์เป็นประจำแล้ว อาจจะก่อให้เกิดโอกาสที่มอเตอร์เกียร์จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง และยังสามารถส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นกว่าปกติได้เช่นเดียวกัน เราจึงควรบำรุงรักษามอเตอร์เกียร์ให้เหมาะสมด้วยวิธีการดังนี้

  1. เลือกสถานที่ติดตั้งมอเตอร์เกียร์ให้เหมาะสม  โดยตรวจสอบความเหมาะสมจากสภาพแวดล้อมในการติดตั้งมอเตอร์เกียร์ ให้มีลักษณะแห้ง อากาศที่สามารถถ่ายเทได้อย่างสะดวก ควรมีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 0 ถึง 40 องศา และไม่มีปัจจัยที่อาจจะส่งผลเสี่ยงให้เกิดความเสียหายต่อมอเตอร์เกียร์ได้ พร้อมทั้งควรตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งก่อนการติดตั้งว่ามอเตอร์เกียร์ที่เราใช้งานอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยหรือไม่ ไม่ขาดอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง ซึ่งอาจจะส่งผลเสียตามมาภายหลังได้หากมีการติดตั้งที่ไม่เหมาะสม

  2. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องหลังครบระยะเวลาที่กำหนด  น้ำมันหล่อลื่นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานของมอเตอร์เกียร์อย่างมาก ซึ่งจะมีส่วนที่ช่วยทำให้มอเตอร์เกียร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว เราจึงควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพื่อรักษาคุณภาพการทำงานของมอเตอร์เกียร์ให้สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลานั่นเอง

  3. ตรวจสอบลักษณะการทำงานของมอเตอร์เกียร์เป็นประจำ  การตรวจสอบนี้สามารถทำได้ในทุก ๆ วันที่มอเตอร์เกียร์มีการทำงานอยู่แล้ว โดยเราสามารถตรวจสอบได้จากลักษณะการทำงานและเสียงของมอเตอร์เกียร์ว่าอยู่ในสภาวะปกติเหมือนเช่นทุกครั้งหรือไม่ หากเกิดความผิดปกติจากการทำงานที่ผิดแปลกออกไป ก็จะสามารถเรียกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านมอเตอร์เกียร์ให้เข้ามาตรวจสอบและแก้ไขได้ทันท่วงที 

จะเห็นได้ว่าการเลือกประเภทมอเตอร์เกียร์ที่เหมาะสมกับประเภทการใช้งาน และการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีนั้นจะช่วยให้เราสามารถใช้งานมอเตอร์เกียร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถช่วยให้การดำเนินงานภายในอุตสาหกรรมของเรานั้นสามารถทำได้อย่างราบรื่น และลดโอกาสในการเกิดปัญหาที่จะตามมาภายหลังจากการใช้งานที่ผิดประเภท สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการมอเตอร์เกียร์คุณภาพสูง การเลือกใช้บริการจาก บริษัท ทอร์ชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม ด้วยความเป็นตัวแทนจำหน่ายอุตสาหกรรมด้าน Power Tranmission เช่น Power Lock Univaersla joint Pulley ยอยสลัก และมอเตอร์เกียร์ มาตรฐานการใช้งานสูงนำเข้าจากประเทศชั้นนำอย่างเช่น อิตาลี เยอรมัน เกาหลี และยังมีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการคำแนะนำกับผู้ที่สนใจโดยวิศวกรทีมขายและบริการหลังการขายตลอด 24 ชม เพื่อตอบโจทย์การใช้งานมอเตอร์เกียร์ที่เหมาะสมกับท่านโดยเฉพาะ

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ มอเตอร์เกียร์ Universal Joint ติดต่อ
Tel : 089 338 7708, 089 229 1041
E-mail : torsion.thailand@gamil.com

Website : www.torsion-th.com
Facebook : https://www.facebook.com/torsion.thailand  

Visitors: 39,594